นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ประวัติสโมสรฟุตบอล
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด Newcastle United Football Club ตัวย่อ: NUFC เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษที่ตั้งอยู่ในเมืองนิวคาสเซิล อะพอน ไทน์ และเล่นในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1892 โดยเกิดจากการควบรวมกิจการของ นิวคาสเซิลอีสต์เอนด์ และ นิวคาสเซิลเวสต์เอนด์
ทีมเล่นในบ้านที่ เซนต์เจมส์พาร์ก ใจกลางเมืองนิวคาสเซิล ตามข้อกำหนดของ ลอร์ด จัสติส เทย์เลอร์ ในรายงานการสอบสวนเกี่ยวกับภัยพิบัติที่สนามกีฬาฮิลส์โบโรกำหนดให้ทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต
มีสนามฟุตบอลแบบมีที่นั่งทั้งหมด ตัวสนามได้รับการปรับปรุงในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษที่ 1990 และปัจจุบันมีความจุ 52,305 ที่นั่ง
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ได้เล่นในลีกสูงสุดถึง 90 ฤดูกาล นับตั้งแต่ก่อตั้งลีกในปี 1893เกียรติประวัติคือ ชนะเลิศลีกสูงสุด 4 สมัย,
เอฟเอคัพ 6 สมัย และ เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 1 สมัย สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด และในการแข่งขันระดับทวีป พวกเขาชนะเลิศ อินเตอร์-ซิตีส์แฟส์คัพ และ ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ รายการละ 1 สมัย
นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต สโมสรประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงทศวรรษ 1900 โดยชนะเลิศฟุตบอลดิวิชันหนึ่ง 3 สมัย และเอฟเอคัพ 1 สมัย[4] นิวคาสเซิลตกชั้นในยุคพรีเมียร์ลีกสองครั้งในฤดูกาล 2009 และ 2016 แต่สามารถเลื่อนชั้นกลับมาได้ภายในฤดูกาลเดียวทั้งสองครั้งในฐานะผู้ชนะการแข่งขันอีเอฟแอลแชมเปียนชิป
พวกเขามีคู่แข่งในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยกัน คือซันเดอร์แลนด์และถือเป็นหนึ่งในการพบกันของสองสโมสรที่ดุเดือดที่สุดในอังกฤษ
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในปี 1999 สโมสรทำรายรับได้มากเป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นอันดับ 2 นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต ในอังกฤษเป็นรองเพียงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทำรายรับได้มากเป็นอันดับ 17 ของโลกในปี 2015 (170 ล้านยูโร)นิวคาสเซิลยังเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในอังกฤษ กลุ่มผู้สนับสนุนของสโมสรมีวัฒนธรรมในการร้องเพลง “Local Hero” และ “Blaydon Races”
ในสนามเมื่อลงเล่นเป็นทีมเหย้า และใน ค.ศ. 2005 ภาพยนตร์สัญชาติอังกฤษเรื่อง โกล์ ได้ออกฉายโดยมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสโมสรนิวคาสเซิลซึ่งได้สะท้อนถึงความคลั่งไคล้ของกลุ่มผู้สนับสนุนไมค์ แอชลีย์ เข้าซื้อกิจการและควบคุมสโมสร สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด
ในช่วงปี 2007–2021 ก่อนจะขายสโมสรให้กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย ในราคา 300 ล้านปอนด์โดยมียาซิร อัรรุมัยยาน เป็นประธานสโมสรคนใหม่ ส่งผลให้พวกเขาเป็นสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในพรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด เริ่มประสบความสำเร็จ และการตกชั้นในยุคแรก
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ถึงสามสมัยในช่วงทศวรรษ 1900 และยังเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพถึง 5 ครั้งใน 7 ฤดูกาล แต่เป็นแชมป์เพียงครั้งเดียวใน 1910 โดยเอาชนะบาร์นสลีย์ในการเตะนัดรีเพลย์ที่กูดิสันพาร์ก หลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลง พวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้อีกสมัยโดยเอาชนะแอสตันวิลลาที่สนามเวมบลีย์
และ สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ได้แชมป์ลีกอีกหนึ่งสมัยในฤดูกาล 1927 ด้วยผลงานของกองหน้าคนสำคัญและกัปตันทีมอย่าง ฮักกี แกลลาเชอร์ นักฟุตบอลชาวสกอต ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร แต่หลังจากนั้นผลงานทีมก็ตกลงไป และกลายเป็นทีมกลางตาราง โดยต้องหนีตกชั้นในปี 1930 ก่อนที่แกลลาเกอร์จะลาทีมในปีนั้นเพื่อไปร่วมทีมเชลซี
และแอนดี คันนิงแฮม นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อดีตผู้เล่นสโมสรเข้ามาคุมทีมต่อในปี 1930–35 และพาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 3 ในปี 1932 ชนะอาร์เซนอล 2–1 แต่ผลงานในลีกของทีมก็ยังย่ำแย่ต่อเนื่อง และต้องตกชั้นในฤดูกาล 1933–34 หลังจากเล่นในลีกสูงสุดนาน35 ปี คันนิงแฮมลาออก โดยมี ทอม มาเธอร์ เข้ามารับตำแหน่งต่อ
การเข้ามาของมาเธอร์ก็ยังไม่อาจยกระดับทีมได้ นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต นิวคาสเซิลยังเป็นทีมท้ายตารางในดิวิชั่นสอง และเกือบจะต้องตกสู่ดิวิชั่นสามในฤดูกาล 1937–38 แต่เอาตัวรอดได้ด้วยผลประตูได้เสียที่ดีกว่าทีมอื่น
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นในปี 1939 ทีมมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยนำผู้เล่นใหม่เข้ามาเป็นแกนหลัก เช่น แจคกี มิลเบิร์น, ทอมมี วอล์คเกอร์ และบ็อบบี โคเวลล์พวกเขาเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งหลังจบฤดูกาล 1947–48 ด้วยผลงานคุมทีมของ จอร์จ มาร์ติน นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต
ในช่วงทศวรรษ 1950 นิวคาสเซิลเป็นแชมป์เอฟเอคัพถึง 3 สมัยในช่วงเวลา 5 ปี โดยชนะแบล็กพูล 2–0 ในปี 1951 ชนะอาร์เซนอล 1–0 ในปี 1952 และชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3–1 ในปี 1955 โดยในยุคนั้น มีผู้เล่นชื่อดังหลายคน เช่น แจคกี มิลเบิร์น, บ็อบบี มิทเชลล์ และ สแตน เซมัวร์ แต่ทีมกลับไปทำผลงานในลีกกระท่อนกระแท่นอีกครั้ง และตกชั้นอีกครั้งหลังจบฤดูกาล 1960–61 ในยุคของผู้จัดการทีม ชาร์ลี มิธเทน ซึ่งได้ลาออก
หลังจากตกชั้นลงไปดิวิชันสองอยู่ชั่วขณะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่นำโดยผู้จัดการทีม โจ ฮาร์วีย์ ก็ได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดในปี 1965 ทีมของฮาร์วีย์ทำอันดับผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปครั้งแรกในปี 1968 ก่อนจะคว้าแชมป์ถ้วยอินเตอร์-ซิตีส์ แฟร์ส คัพ
(ยูโรปาลีกในปัจจุบัน) ไปครองอย่างเหนือความคาดหมายในปีถัดมา นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต โดยชนะทีมใหญ่ในยุโรปของยุคนั้นไปได้หลายราย ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ติงลิสบอนจากโปรตุเกส, ไฟเยอโนร์ดจากเนเธอร์แลนด์ และเรอัลซาราโกซาจากสเปน และปิดท้ายด้วยการคว่ำทีมอุจเพสท์จากฮังการีในรอบชิงชนะเลิศ
นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมมา นิวคาสเซิลมักจะมอบเสื้อหมายเลข 9 ให้แก่ผู้เล่นกองหน้าชื่อดังประจำทีม โดยประเพณีนี้ยังคงตกทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับในช่วงเวลานั้น ผู้เล่นที่ได้ใส่เสื้อหมายเลข 9 มีหลายคน เช่น วิน เดวีส์, บ็อบบี มอนเคอร์ หรือแฟรงค์ คลาร์ก
ยุคใหม่ และมหาเศรษฐีทีมใหม่ของอังกฤษ
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2016–17 สโมสรคว้าแชมป์เดอะแชมป์เปี้ยนชิพได้ และกลับสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ก่อนที่เบนิเตซจะอำลาทีมในฤดูกาล 2019 เนื่องจากขัดแย้งกับบอร์ดบริหารในนโยบายการซื้อขายผู้เล่น สตีฟ บรูซ เข้ามาคุมทีมต่อ
ซึ่งก็ยังทำผลงานได้ไม่ดีนักในสองฤดูกาลแรก โดยจบเพียงอันดับที่ 13 และ 12 ตามลำดับ ต่อมา ในวันที่ 8 ตุลาคม 2021 สโมสรนิวคาสเซิล ถูกขายให้กับกลุ่มทุน พีไอเอฟ ซึ่งนำโดย อแมนดา สเตฟลีย์ และพี่น้องรูเบน สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในราคา 305 ล้านปอนด์
นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต ปิดฉากการเป็นเจ้าของทีม 14 ปี ของไมค์ แอชลีย์ และทำให้นิวคาสเซิลเป็นสโมสรที่มีเจ้าของทีมร่ำรวยที่สุดในประเทศต่อมาในวันที่ 20 ตุลาคม สตีฟ บรูซ ได้ถูกปลดเนื่องจากทีมเริ่มต้นฤดูกาล2021–22 ได้อย่างย่ำแย่เอ็ดดี ฮาว เข้ามารับตำแหน่งต่อและสามารถพาทีมจบในอันดับ 11 จากที่เคยอยู่ในโซนท้ายตารางเมื่อช่วงกลางฤดูกาล
สถิติสำคัญเป็นอย่างไร
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด นับถึงฤดูกาล 2019–20 นิวคาสเซิลได้เล่นในลีกสูงสุดถึง 89 ฤดูกาล มากที่สุดสโมสรหนึ่งในอังกฤษ และพวกเขาอยู่ในอันดับ 8 ในการจัดอันดับคะแนนรวมตลอดกาลนับตั้งแต่ก่อตั้งลีกสูงสุด รวมทั้งประสบความสำเร็จมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ในอังกฤษ
ผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุดให้กับทีมได้แก่ จิมมี ลอว์เรนซ์ (1904–22) จำนวน 496 นัด, ผู้ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลได้แก่ แอลัน เชียเรอร์ (1996–2006) จำนวน 206 ประตูผู้ทำประตูมากที่สุดภายในหนึ่งฤดูกาลได้แก่ แอนดี โคล จำนวน 41 ประตู
(ฤดูกาล 1993–94)
สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด สถิติชนะมากที่สุดของสโมสร คือนัดชนะ สโมสรนิวพอร์ตเคาน์ตี ในฟุตบอลดิวิชั่นสองฤดูกาล 1946, สถิติแพ้มากที่สุดคือนัดแพ้สโมสรเบอร์ตัน 0–9 ในฟุตบอลดิวิชั่นสองฤดูกาล 1895, สถิติผู้ชมในสนามมากที่สุดได้แก่ นัดพบกับเชลซี (68,386 คน)
ในการแข่งขันดิวิชั่นหนึ่งวันที่ 3 กันยายน 1930 และสถิติผู้เข้าชมสูงสุดในพรีเมียร์ลีกคือสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด 52,389 คนในนัดกับแมนเชสเตอร์ซิตีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2012 ซึ่งนิวคาสเซิลแพ้ไป 0–2, สถิติการขายผู้เล่นแพงที่สูงสุดคือการขายแอนดี
แคร์โรล 35 ล้านปอนด์ ให้ลิเวอร์พูลในเดือนมกราคม 2011 และการซื้อผู้เล่นที่แพงที่สุดคือ โจลินตัน 40 ล้านปอนด์ จากสโมสร ฮ็อฟเฟินไฮม์ ในเดือนกรกฎาคม 2019