ฟุตบอลทีมชาติบราซิล สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล
ฟุตบอลทีมชาติบราซิล (โปรตุเกส: Seleção Brasileira de Futebol) เป็นทีมฟุตบอลชายตัวแทนของประเทศบราซิล อยู่ภายใต้การควบคุมของสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (CBF) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลฟุตบอลในประเทศบราซิล พวกเขาเป็นสมาชิกของฟีฟ่ามาตั้งแต่ ค.ศ. 1923
และเป็นสมาชิกของคอนเมบอลมาตั้งแต่ ค.ศ. 1916บราซิลเป็นทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟุตบอลโลก โดยชนะเลิศทั้งสิ้น 5 สมัยในปี 1958, 1962, 1970, 1994 และ 2002 นอกจากนี้ ยังทำอีกหลายสถิติใน
ฟุตบอลโลก ได้แก่ ชนะมากที่สุดที่ 73 นัดจากการลงเล่น 109 นัด ทำผลต่างประตูได้ถึง 124 ลูก ทำคะแนนได้ถึง 237 แต้ม และแพ้เพียงแค่ 18 นัดเท่านั้น บราซิลเป็นเพียงทีมชาติเดียวที่ลงแข่งขันฟุตบอลโลกครบทุกครั้ง
บราซิลเป็นทีมชาติที่มีอันดับอีโลโดยเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก และมีอันดับอีโลสูงสุดสูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยการจัดอันดับนี้เริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1962 บราซิลได้รับรางวัลทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่ามากที่สุดที่ 12
ครั้ง บรรดานักวิจารณ์และอดีตผู้เล่นต่างออกมายกย่องว่าทีมชาติบราซิลยุคปี 1970 เป็นทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ส่วนทีมชาติบราซิลในยุคอื่น ๆ ก็ถูกมองว่าเป็นทีมที่มีคุณภาพดีด้วยเช่นกัน อย่างเช่น ทีมชาติในปี 1958–62 และ 1982
บราซิลเป็นเพียงชาติเดียวที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกบนสี่ทวีปที่แตกต่างกัน ได้แก่ หนึ่งสมัยที่ยุโรป (สวีเดน 1958), หนึ่งสมัยที่อเมริกาใต้ (ชิลี 1962), สองสมัยที่อเมริกาเหนือ (เม็กซิโก 1970 และสหรัฐ 1994) และหนึ่งสมัยที่
ฟุตบอลทีมชาติบราซิล เอเชีย (เกาหลีใต้/ญี่ปุ่น 2002) พวกเขาเป็นหนึ่งในสามทีมชาติร่วมกับฝรั่งเศสและอาร์เจนตินาที่ชนะเลิศการแข่งขันครบสามรายการใหญ่ของฟีฟ่า ได้แก่ ฟุตบอลโลก, คอนเฟเดอเรชันส์คัพ และโอลิมปิกฤดูร้อน พวกเขายังครองสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันมากที่สุดที่ 35 นัดร่วมกับทีมชาติสเปนบราซิลมีทีมชาติคู่ปรับหลายทีม
ได้แก่ อาร์เจนตินา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Superclássico das Américas ในภาษาโปรตุเกส, อิตาลี ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Clásico Mundial ในภาษาสเปนหรือ เวิลด์ดาร์บี ในภาษาอังกฤษ อุรุกวัย จากเหตุการณ์มารากานาโซอันเป็นบาดแผลทางใจของบราซิลฝรั่งเศส จากการพบกันในฟุตบอลโลกที่บราซิลมัก
เป็นรองกว่า เนเธอร์แลนด์ จากการพบกันในฟุตบอลโลกและรูปแบบการเล่นของทั้งสองทีมที่คล้ายกันและโปรตุเกส จากการที่ทั้งคู่มีมรดกและวัฒนธรรมร่วมกัน เช่นเดียวกับการที่มีนักฟุตบอลชาวบราซิลหลายคนเกิดที
โปรตุเกส มีคำพูดหนึ่งที่กล่าวว่า “อังกฤษคิดค้นฟุตบอล แต่บราซิลทำให้มันสมบูรณ์แบบ”
(Os ingleses o inventaram, os brasileiros o aperfeiçoaram)
ฟุตบอลทีมชาติบราซิล กลับมาประสบความสำเร็จ
หลังจากที่ไม่ชนะเลิศหรือเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมาเป็นเวลานานถึง 24 ปี บราซิลได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐ โดยทีมชาติชุดนั้นมีแนวรุกอย่างโรมารีอูและเบแบตู, กองกลางอย่างกัปตันดุงกา, ผู้รักษาประตู เกลาดีโอ ทัฟฟาเรล และกองหลังอย่างฌอร์ฌิญญู พวกเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นสมัยที่ 4 โดยทำ
ผลงานอันโดดเด่นด้วยการเอาชนะสหรัฐ 1–0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เอาชนะเนเธอร์แลนด์ 3–2 ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่แดลลัส และเอาชนะสวีเดน 1–0 ในรอบรองชนะเลิศที่โรสโบวล์ในแพซาดีนา ก่อนที่จะเข้าไปชิงชนะเลิศกับอิตาลีที่แพซาดีนาเช่นกัน เกมนัดชิงชนะเลิศจบลงด้วยผลเสมอไร้ประตู ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ซึ่งบราซิลเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้หลังจากที่โรแบร์โต บัจโจ
คนยิงสุดท้ายของอิตาลี ยิงลูกโทษไม่เข้า แม้ว่าจะบราซิลจะประสบความสำเร็จ แต่ทีมชุดที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกครั้งนั้นกลับไม่ได้รับการยกย่องเทียบเท่ากับทีมชุดชนะเลิศฟุตบอลโลกครั้งอื่น โดยโฟร์โฟร์ทูกล่าวว่าทีมชาติ
ชุดชนะเลิศฟุตบอลโลก 1994 ไม่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลในประเทศ เนื่องด้วยรูปแบบการเล่นที่เน้นรับมากกว่ารุก
บราซิลเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 1998 ในฐานะแชมป์เก่า ซึ่งพวกเขาจบด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ ในรายการนั้น บราซิลจบอันดับที่หนึ่งของกลุ่ม ก่อนที่จะเอาชนะได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายและรอบก่อนรองชนะเลิศ บราซิลเอาชนะการยิงลูกโทษต่อเนเธอร์แลนด์หลังจากที่เสมอกัน 1–1 ในรอบรองชนะเลิศ
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์อย่างโรนัลโดทำ 4 ประตูและ 3 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ณ ตอนนั้นอย่างโรนัลโด กลับประสบภาวะลมชักเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อน
เริ่มแข่ง การประกาศรายชื่อผู้เล่นตัวจริงซึ่งไม่มีโรนัลโด ส่งความประหลาดใจให้กับสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม โรนัลโดกล่าวว่าเขารู้สึกดีขึ้นและต้องการลงเล่น ทำให้ผู้ฝึกสอนส่งชื่อของเขาลงเล่นทันที โรนัลโดเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานในเกมนัดนั้น ส่งผลให้ทีมพ่ายแพ้ต่อฝรั่งเศสที่นำทีมโดยซีเนดีน ซีดาน 3–0
เครื่องบินลายทีมชาติบราซิล จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองแชมป์ฟุตบอลโลก 2002
ในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม บราซิลซึ่งนำทัพโดยสามประสานกองหน้า “3R” (โรนัลโด, รีวัลดู และรอนัลดีนโย) สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ได้สำเร็จ พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเอาชนะคู่แข่งครบทั้งสามนัดในรอบแบ่งกลุ่มที่เกาหลีใต้ โดยในนัดเปิดสนามที่บราซิลพบกับตุรกีที่อุลซันนั้น รีวัลดูล้มลงบนพื้นพร้อม
เอามือกุมหน้า หลังจากที่ถูกผู้เล่นของตุรกีอย่าง Hakan Ünsal เตะลูกบอลไปโดนขาของเขา รีวัลดูรอดพ้นจากการถูกแบน แต่ต้องเสียค่าปรับ 5,180 ปอนด์จากการแสดงละครตบตา เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ถูกลงโทษด้วยกรณีพุ่งล้มจากทางฟีฟ่า ในรอบแพ้คัดออกที่แข่งขันกันที่ญี่ปุ่น บราซิลเอาชนะเบลเยียม 2–0 ในรอบ 16 ทีม
สุดท้ายที่โคเบะ ต่อมาพวกเขาเอาชนะอังกฤษ 2–1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่ชิซูโอกะ โดยได้ประตูชัยจากฟรีคิกระยะ 40 หลาของรอนัลดีนโย และเอาชนะตุรกี 1–0 ในรอบรองชนะเลิศที่ไซตามะ ก่อนที่จะเข้าชิงชนะเลิศ
กับเยอรมนีที่โยโกฮามะ ซึ่งโรนัลโดทำสองประตูช่วยให้บราซิลเอาชนะไปได้ 2–0 โรนัลโดได้รับรางวัลรองเท้าทองคำประจำทัวร์นาเมนต์จากการที่เขาทำได้ถึง 8 ประตูความสำเร็จของบราซิลครั้งนั้นทำให้เขาได้รับรางวัลทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของลอรีอุสเวิลด์สปอร์ตส
บราซิลชนะเลิศโกปาอาเมริกา 2004 ซึ่งเป็นแชมป์รายการที่สามจากการแข่งขันสี่ครั้งหลังสุดนับตั้งแต่ ค.ศ. 1997 นอกจากนี้ พวกเขายังชนะเลิศฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2005 ซึ่งถือเป็นแชมป์สมัยที่สองของพวกเขาใน
รายการนี้ ผู้จัดการทีมอย่างการ์ลุส อับแบร์ตู ปาร์ไรราก่อร่างสร้างทีมด้วยระบบ 4–2–2–2 ซึ่งมีชื่อเรียกติดปากว่า “เมจิกควอเต็ต” (Magic quartet) ระบบนี้มีผู้เล่นในแนวรุกถึงสี่คน ได้แก่ โรนัลโด, อาดรียานู, กาก้า และรอนัลดีนโย
ในฟุตบอลโลก 2006 บราซิลชนะในสองนัดแรกเหนือโครเอเชีย (1–0) และออสเตรเลีย (2–0) และในนัดสุดท้ายของกลุ่ม บราซิลเอาชนะฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นไปได้ถึง 4–1 โดยโรนัลโดทำสองประตูจนกลายเป็นสถิติร่วมของผู้ที่ทำประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากที่สุด ต่อมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย บราซิลเอาชนะกานา 3–0
โดยโรนัลโดทำประตูที่ 15 ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูในรายการนี้มากที่สุดแต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม บราซิลตกรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยการพ่ายแพ้ต่อฝรั่งเศส 1–0 ซึ่งฝรั่งเศสได้ประตูชัยจากตีแยรี อ็องรี
ดุงกาเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมใน ค.ศ. 2006บราซิลชนะเลิศโกปาอาเมริกา 2007 ซึ่งกองหน้าอย่างโรบินยูได้รับรางวัลรองเท้าทองคำและผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ สองปีถัดมา บราซิลชนะเลิศฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2009 ด้วยการเอาชนะสหรัฐ 3–2 ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นสมัยที่
สามกาก้าได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ในขณะที่กองหน้าตัวเป้าอย่างลูอีส ฟาเบียนูได้รับรางวัลดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ แทงบอลโลก