ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย ประวัติ ความเเป็นมา
ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย Croatia national football team; โครเอเชีย: Hrvatska nogometna reprezentacija) เป็นฟุตบอลทีมชาติจากประเทศโครเอเชีย
ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ฟุตบอลโครเอเชีย เคยเข้าร่วมฟุตบอลโลก 5 ครั้ง และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 6 ครั้ง
ในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ทีมชาติโครเอเชียสามารถสร้างประวัติศาสตร์ในการเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก
โดยในรอบรองชนะเลิศเอาชนะทีมชาติอังกฤษไป 2-1 โดยก่อนหน้านี้ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกคือ ได้ที่ 3 ในปี ค.ศ. 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเอาชนะเนเธอร์แลนด์ไปได้ 1–2 ในรอบชิงที่ 3
สมาพันธ์ฟุตบอลโครเอเชียก่อตั้งในวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1912 ในจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งโครเอเชีย เป็นประเทศที่เกิดใหม่ช่วงที่เป็นรัฐอิสระระหว่างปี ค.ศ. 1940–ค.ศ. 1945 ได้ผนวกรวมตัวกับประเทศยูโกสลาเวีย
จึงแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระในปี ค.ศ. 1990 ทำให้ในยุคแรกนักฟุตบอลทีมชาติโครเอเชียจะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติยูโกสลาเวียมาก่อน โดยนัดสุดท้ายที่นักฟุตบอล
ทั้ง 2 ชาติเล่นร่วมกันในนามทีมชาติยูโกสลาเวีย คือ การพบกับสวีเดน
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 และเข้าเป็นสมาชิกฟีฟ่าในปลายปี ค.ศ. 1992 และได้รับการจัดอันดับเป็นครั้งแรกจากฟีฟ่าให้เป็นที่ 125 ของโลก เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1994
ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย ลักษณะเด่นของ ทีมชาติโครเอเชีย คือ ชุดที่สวมใส่ที่มีลายตาราง หมากรุกสีขาวสลับแดง
โดยสวมกางเกงขาว ถุงเท้าสีน้ำเงิน ขณะที่ชุดทีมเยือนจะเป็นสีน้ำเงินเข้มทั้งชุด มีแถบสามเหลี่ยม ตาหมากรุกสีแดงจาก คอและไหล่ซ้ายลงมาถึง แนวต่อของแขนเสื้อ
ซึ่งทำให้ได้รับฉายาว่า “Vatreni” แปลว่า “เปลวไฟ” ขณะที่ฉายาในภาษาไทยจะเรียกว่า “ทีมตาหมากรุก” หรือ “หมากรุกพิฆาต”
ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016
ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 หรือยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส โครเอเชียอยู่ในกลุ่มดี ร่วมกับ สเปน (แชมป์เก่า), ตุรกี และสาธารณรัฐเช็ก โครเอเชียได้ผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็นรอบการแข่งขันที่แพ้แล้วคัดออก
ด้วยคะแนนเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีผลงานเด่น คือ เอาชนะสเปน ซึ่งเป็นแชมป์เก่าและถูกมองว่าเหนือกว่าได้ 1–2 ในนัดสุดท้ายของรอบแรก
ฟุตบอลโลก 2018 . ในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย โครเอเชียอยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับไนจีเรีย, อาร์เจนตินา และทีมชาติร่วมทวีปเดียวกันอย่างไอซ์แลนด์
โครเอเชียทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้ดีโดยเอาชนะได้ทั้งสามนัด ได้แก่ ชนะไนจีเรีย 2–0 ชนะอาร์เจนตินา 3–0 และชนะไอซ์แลนด์ 2–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โครเอเชียเสมอกับเดนมาร์กในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1–1 และสามารถเอาชนะการยิงลูกโทษไปได้ 3–2 ต่อมาในรอบก่อนรองชนะเลิศ โครเอเชีย
เสมอในช่วงต่อเวลาพิเศษอีกครั้งกับเจ้าภาพอย่างรัสเซีย 2–2 สุดท้ายสามารถเอาชนะการยิงลูกโทษ 4–3 ต่อมาในรอบรองชนะเลิศ โครเอเชียสามารถเอาชนะอังกฤษในช่วงต่อเวลาพิเศษไปได้ 2–1
และในรอบชิงชนะเลิศ โครเอเชียพ่ายแพ้ต่อฝรั่งเศส 4–2 ทำให้จบเพียงรองชนะเลิศ แต่นั่นก็ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกของโครเอเชีย
เกียรติประวัติ
รายการหลัก
- ฟุตบอลโลก
- รองชนะเลิศ: 2018
- อันดับที่สาม: 1998
รายการรอง
- ถ้วยรางวัลฮัสซันที่สอง
- ชนะเลิศ: 1996
- คิรินคัพ
- รองชนะเลิศ: 1997
- โคเรียคัพ
- ชนะเลิศ: 1999
- คาลส์เบิร์กคัพ
- อันดับที่สาม: 2006
รางวัลอื่น ๆ
- Best Mover of the Year
- 1994
- 1998
ชุดแข่งขันของโครเอเชียได้ถูกออกแบบใน ปี ค.ศ. 1990 โดยจิตรกร มิโรสลาฟ ซูเตจ์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบตราแผ่นดิน แม้ว่าจะถูกดัดแปลงเล็กน้อยโดยล็อตโต (ในปี ค.ศ. 1998
ตาหมากรุกได้ย้ายไปอยู่ด้านขวา ขณะที่ด้านซ้ายเป็นสีขาวล้วน) และไนกี้ ตั้งแต่ดั้งเดิม ตาหมากรุกถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของเอกลักษณ์ของชาติ
และการออกแบบที่คล้ายกันถูกนำมาใช้ในการแข่งขันกีฬาระดับโลกทั้งหมดของทีมชาติโครเอเชีย
ทีมตาหมากรุก” หรือ “หมากรุกพิฆาต”
ลักษณะเด่นของทีมชาติโครเอเชีย คือ ชุดที่สวมใส่ที่มีลายตารางหมากรุกสีขาวสลับแดง โดยสวมกางเกงขาว ถุงเท้าสีน้ำเงิน ขณะที่ชุดทีมเยือนจะเป็นสีน้ำเงินเข้มทั้งชุด
มีแถบสามเหลี่ยมตาหมากรุกสีแดงจากคอและไหล่ซ้ายลงมาถึงแนวต่อของแขนเสื้อ ซึ่งทำให้ได้รับฉายาว่า “Vatreni” แปลว่า “เปลวไฟ” ขณะที่ฉายาในภาษาไทยจะเรียกว่า “ทีมตาหมากรุก” หรือ “หมากรุกพิฆาต”
สีขาว คือ โทนสี หรือ การรับรู้ที่เกิดจากแสงไปกระตุ้นเซลล์สีรูปกรวยทั้ง 3 แบบในดวงตาของมนุษย์ในปริมาณที่เกือบจะเท่ากันและมีความสว่างสูงสุดเมื่อเทียบกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
สีขาว เป็นสีที่เกิดจากการรวมความเข้มของแสงสเปกตรัมที่มองเห็นได้ เป็นสีที่เต็มไปด้วยความสว่าง แต่ไม่มีสีสัน
แหล่งกำเนิดของแสงสีขาวมีอยู่หลายแหล่ง เช่น ดวงอาทิตย์ในเวลากลางวัน, หลอดไฟแบบไส้, หลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนท์ และหลอด LED สีขาว
สีขาวยังมีความพิเศษอยู่อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ เป็นสีที่เกิดจากการผสมกันระหว่างแสงสีปฐมภูมิ ซึ่งได้แก่ สีแดง, เขียว และน้ำเงิน
(RGB) โดยเรียกกระบวนการนี้ว่า การผสมแสงสี (additive mixing) ซึ่งพบได้ทั่วไปในเทคโนโลยีการแสดงผล
แสงสีขาวที่สะท้อนออกมาจากวัตถุจะสามารถมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อไม่มีสเปกตรัมของแสงส่วนไหนที่สะท้อนมากกว่าส่วนอื่น ๆ และวัตถุที่สะท้อนแสงนั้นมีมุมตกกระทบที่เหมาะสมที่จะทำให้เกิดการกระจัดกระจายของแสง (diffusion) ได้
สีแดง คือสีมีความถี่ของแสงที่ต่ำที่สุด ที่ตามนุษย์สามารถแยกแยะได้ แสงสีแดงมีบริเวณช่วงคลื่นระหว่าง 630-760 นาโนเมตร
สีแดงเป็นสีอย่างสีเลือดหรือสีชาด, ใช้ประกอบสิ่งต่าง ๆ บางอย่างโดยอนุโลมตามลักษณะสี เป็นชื่อเรียกเฉพาะ เช่น มดแดง ผ้าแดง จัดเป็น 1 ในแม่สี 3 สี ร่วมกับสีเหลือง, สีน้ำเงิน
สีน้ำเงิน เป็นหนึ่งในแม่สี ทั้งแม่สีทางแสง และทางวัตถุธาตุ เป็นแม่สีที่มีความยาวคลื่นต่ำที่สุด แสงสีน้ำเงินมีบริเวณช่วงคลื่นระหว่าง 440-490 นาโนเมตร เป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีฟ้าและสีกรมท่า และถือเป็น 1 ในแม่สีร่วมกับ สีแดง และสีเหลือง
สีน้ำเงิน เป็นสีในกลุ่มสีโทนเย็น สีน้ำเงินเป็นสีที่สร้างความสุขุมเยือกเย็น หนักแน่นและละเอียดรอบคอบ ใช้ในการสร้างแรงบันดาลใจและการแสดงออกทางศิลปะ
ได้ดีอีกด้วย ขณะที่สีฟ้าให้ความรู้สึกแบบเดียวกับสีเขียว คือ สบายตา ให้ความรู้สึกเป็นอิสระ ปลอดโปร่ง โล่งใจ ลดความร้อนรุ่มกระวนกระวายใจลงได้ แทงบอลโลก