สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง หรือเรียกอย่างย่อว่า เปแอ็สเฌ (PSG) เป็นสโมสรฟุตบอล

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง – แฌร์แม็ง  Paris Saint-Germain F.C

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง Paris Saint-Germain F.C.) หรือเรียกอย่างย่อว่า เปแอ็สเฌ (PSG) เป็นสโมสรฟุตบอลซึ่งตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันเล่นอยู่ในลีกเอิง ลีกสูงสุดของฟุตบอลฝรั่งเศส พวกเขาเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของฝรั่งเศส สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส

โดยชนะเลิศการแข่งขันในประเทศมากกว่า 40 รายการ ซึ่งรวมถึงการชนะเลิศฟุตบอลลีกเอิง 10 สมัย และยังครองสถิติในการเล่นในลีกสูงสุดยาวนานที่สุดโดยไม่ตกชั้น และเป็นสโมสรเดียวของฝรั่งเศสที่ชนะเลิศถ้วยรางวัลในประเทศ 3 รายการ และ 4 รายการในฤดูกาลเดียวกัน สโมสรมีสนามเหย้าคือปาร์กเดแพร็งส์[3] และมีสัญลักษณ์คือรูปหอไอเฟล และดอกลิลลี

ก่อตั้งขึ้นในค.ศ. 1970 จากการควบรวมสโมสรระหว่างปารี แอ็ฟเซ และ สตาดแซ็ง-แฌร์แม็ง ถ้วยรางวัลแรกของสโมสรคือรายการกุปเดอฟร็องส์ในค.ศ. 1982 ก่อนจะคว้าแชมป์ลีกเอิงสมัยแรกได้ในค.ศ. 1986 ถัดมาในช่วงทศวรรษ 1990 สโมสรเข้าสู่ยุคทองแห่งความสำเร็จ โดยชนะเลิศลีกเอิงสมัยที่ 2, ชนะเลิศกุปเดอฟร็องส์เพิ่ม 3 สมัย และกุปเดอลาลีกอีก 2 สมัย และชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพในค.ศ. 1996

ตัวแทนกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก ส่งผลให้พวกเขาเป็นหนึ่งในสองสโมสรของฝรั่งเศสที่ชนะเลิศการแข่งขันในถ้วยยุโรป[5] ในค.ศ. 2011 กลุ่มนายทุนมหาเศรษฐีจากกาตาร์ นำโดยตะมีม บิน ฮะมัด อัษษานี ได้เข้ามาซื้อกิจการสโมสร ส่งผลให้พวกเขากลายเป็นสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในฝรั่งเศส รวมทั้งเป็นหนึ่งในสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

และด้วยการลงทุนซื้อตัวผู้เล่นมากกว่า 1 พันล้านยูโร ส่งผลให้สโมสรครองความยิ่งใหญ่ในประเทศมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้น โดยชนะเลิศการแข่งขันในประเทศมากกว่า 20 รายการ และยังเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในค.ศ. 2020 สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส

ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งเป็นสโมสรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฝรั่งเศส รวมทั้งเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีผู้ติตดามมากที่สุดในโลกสโมสรมีคู่ปรับคือออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ โดยการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมเรียกว่า เลอกลาซิก ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งเป็นสโมสรที่ทำรายรับมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง  จากการจัดอันดับโดย ดีลอยต์ทูชโทมัตสุ ด้วยรายรับกว่า 556 ล้านยูโร และได้รับการจัดอันดับโดยฟอบส์ให้เป็นสโมสรที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลกด้วยมูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง ยุคแรกของการก่อตั้งและการแยกทีม

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมค.ศ. 1970 โดย กี เครซ็อง และ ปีแยร์-เอเตียน กีโย นักธุรกิจชื่อดังซึ่งมีแนวคิดต้องการสร้างทีมฟุตบอลที่เป็นตัวแทนของกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก และต้องการนำชื่อเสียงมาสู่กรุงปารีสและวงการฟุตบอลฝรั่งเศส โดยแต่เดิมนั้นสโมสรได้เกิดจากการรวมทีมกันระหว่างสโมสร ปารี แอ็ฟเซ (ก่อตั้งในค.ศ. 1969) ตัวแทนกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง   กับสตาดแซ็ง-แฌร์แม็ง (ก่อตั้งในค.ศ. 1904) ภายหลังจากที่สตาดแซ็ง-แฌร์แม็งซึ่งเล่นอยู่ในลีก 3 ในขณะนั้นเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกเดอ (ลีก 2) โดย ปารี แอ็ฟเซ ได้ให้การสนับสนุนในด้านค่าใช้จ่าย ในขณะที่สตาดแซ็ง-แฌร์แม็ง วางแผนในด้านโครงสร้างทีมและการบริหาร รวมถึงการสร้างศูนย์ฝึกซ้อม ซึ่งภายหลังจากการรวมทีมกันสโมสรได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส

และลงเล่นในลีกเดอในปีนั้น และ ปีแยร์-เอเตียน กีโย ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรคนแรกการแข่งขันนัดแรกอย่างเป็นทางการของพวกเขาคือการบุกไปเสมอ Stade Poitevin FC ด้วยผลประตู 1–1 ในวันที่ 23 สิงหาคมค.ศ. 1970 ผู้ทำประตูแรกให้แก่สโมสรก็คือ Bernard Guignedoux โดยทำได้จากลูกฟรีคิก สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส

ในช่วงเวลาดังกล่าว สโมสรยังเปิดโอกาสให้แฟนบอลได้ร่วมเป็นเจ้าของทีม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของฝรั่งเศส สโมสรมีสมาชิกร่วมลงนามกว่า 20,000 คน และสโมสรเรอัลมาดริดได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งสโมสร โดยซานเตียโก เบร์นาเบว ประธานสโมสรเรอัลมาดริดในขณะนั้น ได้อนุมัติเงินทุนสนับสนุนพวกเขาจากการที่กลุ่มผู้บริหารเริ่มประสบปัญหาการเงิน สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส

ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดอย่างลีกเอิงได้ในค.ศ. 1971 ในฐานะแชมป์การแข่งขันลีกเดอ[23] โดยในฤดูกาลแรกพวกเขาสามารถจบสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง  ในอันดับที่ 16 และในฤดูกาลต่อมาพวกเขาจบอันดับที่ 12 ย้อนกลับไปในเดือนกันยายนค.ศ. 1972 ตัวแทนกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก

สภาเมืองปารีสได้เสนอเงินจำนวน 850,000 ฟรังก์เพื่อชำระหนี้ของสโมสร และรักษาสถานะในการเล่นบนลีกสูงสุดต่อไป โดยข้อเสนอดังกล่าวแลกกับการต่อรองให้สโมสรเปลี่ยนไปใช้ชื่อว่า “Paris Football Club (สโมสรฟุตบอลปารี)” ตัวแทนกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก

 

กลับคืนสู่ลีกสูงสุด และความสำเร็จในยุคแรก

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ทำการยกระดับทีมกลับมาอีกครั้ง ด้วยการมารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารคนใหม่อย่าง ดาเนียล เฮชเตอร์ นักออกแบบแฟชั่นชื่อดังชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเบลเยียม ในเดือนมิถุนายนค.ศ. 1973

โดยเขามีบทบาทสำคัญในด้านการลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก และยังเป็นผู้ออกแบบชุดแข่งขันของทีมให้ทันสมัยยิ่งขึ้นและยังแต่งตั้ง ฌุสต์ ฟงแตน อดีตนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศสผู้โด่งดังเข้ามาเป็นผู้อำนวยการด้านกีฬา สโมสรกลับคืนสู่ลีกเอิงได้อีกครั้งหลังจากกลับมาเอาชนะ สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส สโมสรฟุตบอลวาล็องเซียนส์ ในการ

แข่งขันเพลย์ออฟด้วยผลประตูรวมสองนัด 5–4 แม้จะบุกแพ้ในนัดแรก 1–2 แต่พวกเขากลับมาเอาชนะคืนได้ที่ปาร์กเดแพร็งส์ ด้วยผลประตู 4–2 และสโมสรไม่เคยตกชั้นจากลีกสูงสุดอีกเลยจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้สโมสรยังได้รับสถานะสโมสรฟุตบอลอาชีพกลับมาอีกครั้ง ตัวแทนกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก

ในฤดูกาล 1973–74ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ลงเล่นเกมในบ้านที่ ปาร์กเดแพร็งส์ บนลีกสูงสุดนัดแรกพบสโมสรเรดส์สตาร์ และพวกเขาเอาชนะด้วยผลประตู 3–1 โอตเนียล ดอสเซวี ชาวโตโก ถือเป็นผู้ทำประตูแรกของสโมสรที่สนามแห่งนี้

พวกเขายังทำผลงานในฟุตบอลถ้วยได้อย่างยอดเยี่ยมในเวลาอันสั้น โดยเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศรายการ กุปเดอฟร็องส์ ได้ หลังจากเอาชนะ แม็ส ด้วยผลประตูรวมสองนัด 4–1

ในช่วงเวลานั้นสโมสรที่แยกตัวออกไปอย่าง ปารี แอ็ฟเซ มีช่วงเวลาที่มืดมน พวกเขามีผลงานย่ำแย่ถึงขั้นตกชั้นสู่ลีกเดอในฤดูกาลเดียวกับที่ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เลื่อนชั้นกลับมา การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารของ ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ ดาเนียล เฮชเตอร์

ได้ปรับบทบาทด้วยการดำรงตำแหน่งประธานสโมสรคนใหม่ในเดือนมิถุนายนค.ศ. 1974 ภายหลังการลาออกของ อ็องรี ปาเตรล และ ฟรองซิส บอเรลลิ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานสโมสร

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง ภายใต้การบริหารทีมของ เฮชเตอร์ สโมสรยังไม่สามารถชนะถ้วยรางวัลใดในทศวรรศ 1970 นี้ แต่มีการพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องและทำผลงานในฟุตบอลถ้วยได้ดีอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้สโมสรมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นทุกปี นำไปสู่การดึงดูดผู้เล่นชื่อดังในยุคนั้นอย่าง ฌ็อง-ปีแยร์ โดเลียน, มุสตาฟา ดาร์เลฟ และ การ์ลอส เบียงคี  อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น เมื่อ ดาเนียล เฮชเตอร์ ถูกลงโทษจากสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส

ห้ามมิให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางฟุตบอลในประเทศตลอดชีวิต สืบเนื่องจากการทุจริตในโครงการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน ณ สนามปาร์กเดแพร็งส์ ส่งผลให้ ฟรองซิส บอเรลลิ รองประธานในขณะนั้นรับตำแหน่งประธานสโมสรต่อ สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส

สโมสรคว้าแชมป์รายการแรกคือกุปเดอฟร็องส์ในฤดูกาล 1981–82 ด้วยการชนะอาแอ็ส แซ็งเตเตียนในการดวลลูกโทษ หลังจากเสมอกัน 2–2 ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการอย่าง ฌอร์ฌ แปรอโช ซึ่งรับตำแหน่งตั้งแต่ค.ศ. 1979

ท่ามกลางการเฉลิมฉลองของแฟน ๆ ตัวแทนกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก ในสนามรวมถึงประธานสโมสรที่วิ่งลงไปในสนาม โดยผู้ที่ยิงจุดโทษตัดสินให้ทีมชนะก็คือ ฌ็อง-มาร์ก ปียาร์เฌ ชัยชนะดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมแข่งขันฟุตบอลยุโรปของสโมสร ซึ่งพวกเขาเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูโรเปียนคัพในฤดูกาล

เอกลักษณ์ คำขวัญ ศึกแห่งศักดิ์ศรี

ตัวแทนกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก สโมสรถือเป็นตัวแทนของประเทศฝรั่งเศส โดยมีสีประจำทีมคือสีแดง สีน้ำเงิน และสีขาว โดยสีแดงและน้ำเงินถือเป็นสีของชาวปารีส และสีขาวสื่อถึงการเป็นตัวแทนของจักรพรรดิฝรั่งเศสในอดีต นอกจากนี้ โลโก้ของสโมสรยังปรากฏภาพของหอไอเฟล ซึ่งต้องการสื่อถึงการเป็นตัวแทนของสโมสรที่ดีที่สุดในกรุงปารีสและยังสะท้อนถึงการเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส

สัตว์นำโชคอย่างเป็นทางการของสโมสรคือ “Germain the Lynx” ซึ่งสวมชุดที่เป็นสีประจำสโมสร โดยเปิดตัวในค.ศ. 2010 ที่กรุงปารีส เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีของสโมสรและมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความบันเทิงให้แก่เด็ก ๆ โดย “The Lynx” จะออกมาสร้างสีสันทุกครั้งก่อนเริ่มการแข่งขันโดยมักออกมาแจกของขวัญรวมทั้งขนมให้กับแฟนบอลในสนาม

คำขวัญ สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง คำขวัญแรกอย่างเป็นทางการของสโมสรคือ “Allez Paris!” ซึ่งเริ่มใช้โดย แอนนี คอร์ดี นักแสดงหญิงชื่อดังชาวเบลเยียมในค.ศ. 1970 ซึ่งเธอถือเป็นแฟนของสโมสรมาอย่างยาวนานและยังเป็นหนึ่งในบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ให้การสนับสนุนเงินทุนสโมสรในระยะแรกของการก่อตั้งทีมในคริสต์ทศวรรษ 1970

อีกด้วย ต่อมาในค.ศ. 1977 แฟนบอลในกรุงปารีสได้ร่วมกันก่อตั้งคำขวัญ “Allez Paris-Saint-Germain!” และเริ่มมีการนำมาร้องเชียร์ให้กำลังใจนักฟุตบอลในสนาม โดยยังคงให้เกียรติแอนนี่ คอร์ดีด้วยการใช้คำว่า Allez Paris นำหน้าเสมอ และสโมสรได้นำคำขวัญ Allez Paris-Saint-Germain! มาเป็นคำขวัญสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน สโมสรปารีสประเทศฝรั่งเศส

ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งถือเป็นคู่ปรับสำคัญของสโมสรออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ การพบกันระหว่างทั้งสองทีมถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่เรียกว่าเลอกลาซิก ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ดุเดือดที่สุดของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส และได้รับการขนานนามจากแฟนฟุตบอลว่าเป็นศึกเอลกลาซิโกของฝรั่งเศส

ทั้งสองสโมสรถือเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดสองอันดับแรกของประเทศ และต่างก็เป็นหนึ่งในสองสโมสรของประเทศฝรั่งเศสที่ชนะเลิศถ้วยรางวัลระดับทวีป ทั้งสองฝ่ายต่างแย่งชิงความสำเร็จกันมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ทั้งสองทีมยังถือเป็นสองสโมสรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฝรั่งเศส  ตัวแทนกรุงปารีสในการแข่งขันระดับโลก ทั้งคู่มีสถิติการพบกันจำนวน 101 นัด โดยปารีแซ็ง-แฌร์แม็งสามารถเอาชนะไปได้ 45 นัด เป็นชัยชนะของออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ 33 นัด และเสมอกันไป 23 นัด

แทงไก่ชนออนไลน์

นิวคาสเซิลยูไนเต็ดสโมสรฟุตบอลติดอันดับบยอดฮิต

ขอขอบคุณข้อมูล : th.wikipedia.org/wiki/สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง